๖ กรกฎาคม ๒๕๕๒

คำตรัสของพระพุทธเจ้า "เรือนกระดูก"


"เธอจงพิจารณากายที่อาดูร ไม่สะอาด เปื่อยเน่าไหลเข้าไหลออก ซึ่งคนเขลาปราถนายิ่งนัก เธอจงเห็นธาตุทั้งหลายโดยเป็นของว่างเปล่า อย่ามาสู่โลกอีก เธอสำรอกความพอใจในภพชาติเสีย จักระงับอยู่ตลอดไป สรีรกายนี้ ถูกสร้างให้เป็นเมืองกระดูก ฉาบด้วยเนื้อและเลือด เป็นที่ตั้งแห่งความแก่ ความตาย ความทระนง และความลบหลู่"

เหตุแห่งคำตรัส : พระรูปนันทาเถรี

พระรูปนันทาเถรีก็คือ นางรูปนันทาเทวี หรือนางชนบทกัลยานี พระธิดาของนางปชาบดีโคตมี มีพระนันทภิกขุเป็นพระเชรษฐา เมื่อวันอาวาหวิวาหมงคลของนางกับนันทกุมารนั้น พระพุทธเจ้าก็ได้พรากนันทกุมารไปบวชเสีย ต่อมาพระบิดาสุทโธทนะก็สิ้นพระชนม์ พระมารดาก็ออกบวช พระกนิษฐาสุนิสา (พี่สะใภ้คือพระนางยโสธราพิมพา) ก็ออกบวช พระนางจึงออกบวชด้วย อาศัยอยู่ในวัดเชตวันมหาวิหาร

แต่เพราะเป็นคนสวย แม้บวชแล้วก็ยังติดอยู่ในรูปสมบัติ จึงไม่ยอมฟังธรรมของพระพุทธเจ้า เพราะกลัวพระพุทธองค์จะเทศน์ติรูป วันหนึ่งได้ข่าวว่าพระพุทธองค์ทรงเทศน์เพราะนัก จึงแอบไปนั่งเบื้องหลังสุดเพื่อฟังธรรมในธรรมสภา ขณะฟังธรรมได้เห็นสตรีผู้หนึ่งยืนถวายงานพัดพระพุทธเจ้า อายุ ๑๖ ปี นางเป็นหญิงงดงามเกินเปรียบ เมื่อเทียบกับตนเองแล้วด้อยกว่าสตรีนางนั้นมาก ต่อมาก็เห็นสตรีนางนั้นอายุ ๒๐ ปี ความงามลดลงหน่อยหนึ่ง ต่อมาหญิงนั้นก็เปลี่ยนเป็นสตรีผู้มีบุตร ต่อมาก็กลายเป็นหญิงกลางคน คนแก่ และแก่หง่อมหมดความงามทั้งปวง พระพุทธเจ้าก็มาถึงบทเทศนาข้างต้นนั้น มุ่งไปที่พระรูปนันทาเถรีโดยเฉพาะ

จิตของพระรูปนันทาพิจารณาตาม ก็ได้วิมุตติหลุดพ้นจากอาสวะทั้งปวง บรรลุอรหันตผลในวันนั้น


คำตรัสพระพุทธเจ้า เหตุแห่งคำตรัส หน้า ๙๐

.

ไม่มีความคิดเห็น: